หยุดใช้สกรูไฟฟ้า

5 เหตุผลที่ควรหยุดใช้!!
สกรูไฟฟ้าแบบแปรงถ่าน (Carbon Brush)

ผมเชื่อว่าผู้อ่านหลายๆคนในที่นี้มีประสบการณ์การเปลี่ยนอแปรงถ่านให้กับสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) ที่ใช้อยู่ไม่มากก็น้อยครับ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เคยเปลี่ยนแปลงถ่านด้วยตัวเอง และหลายๆโรงงานก็ยังใช้ สกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน (Carbon Brush)อยู่ปัจจุบัน อาจเป็นเพราะสาเหตุหลักๆก็คือ เรื่องราคาและงบประมาณครับ เพราะ สกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush)นั้น ราคาค่อนข้างถูกหาซื้อได้ง่าย บ้างคนถึงขั้นบอกว่าพังก็ซื้อไหมไม่เห็นต้องซ่อมเลย ผมก็เป็นหนึ่งคนครับที่เคยคิดอย่างนั้น แต่เชื่อไหมครับว่าสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush) นั้นถูกก็จริงครับ แต่มีต้นทุนแฝงที่ซ่อนอยู่ไม่น้อยเลยครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านมาดูกันว่า 5 เหตุผลหลักที่เราไม่ควรใช้ สกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน (Carbon Brush) นั้นมีอะไรบ้าง

 

หยุดใช้สกรูไฟฟ้า

แกนมอเตอร์ (Rotor) พังง่าย

เนื่องจากหลักการหมุนของสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush) นั้นจะใช้การอาร์คระหว่างขั้วของแปรงถ่านทั้ง 2 ด้านจึงทำให้ตำแหน่งหรือจุดที่อาร์คนั้นมีการสึกหรอลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุดแกนมอเตอร์ (Rotor) ก็จะไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากเราจะต้องเปลี่ยนแปลงถ่านแล้ว เราจะต้องเตรียมงบประมาณไว้เปลี่ยนแกนมอเตอร์อีกด้วย นอกจากนั้นการเปลี่ยนแกนมอเตอร์ของสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush) นอกจากจะมีค่าอะไรที่เป็นต้นทุนแล้ว ยังมีต้นทุนแฝงของเวลาที่ต้องหยุดเพื่อเปลี่ยนแกนมอเตอร์ (Rotor) บางครั้งอาจเป็นสาเหตุหยุดสายการผลิตไปเลย ถ้าเราไม่ได้มีสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush) ที่สำรองไว้ เพราะการถอดเปลี่ยนแกนมอเตอร์อาจไม่ได้ทำได้ง่านและรวดเร็วเหมือนการเปลี่ยนแปรงถ่าน

 

หยุดใช้สกรูไฟฟ้า

เครื่องร้อน

ใช้ครับอย่างที่ผมบอกไปแล้วนะครับว่าหลักการหมุนของสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush) นั้นจะใช้การอาร์คระหว่างขั้วของแปรงถ่านทั้ง 2 ด้าน จึงทำให้เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความร้อนที่เกิดขึ้นจากการอาร์ค เมื่อเราใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานความร้อนก็ยิ่งสูงขึ้นๆ บางครี่งสูงถึง 70 องศาเซลเซียส และความร้อนนี้ละครับจะส่งต่ออายุของสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush ) เพราะจะความร้อนจะทำให้ชิ้นส่วนทั้งอิเลคทรอนิค และชิ้นส่วนทางเครื่องกล มีอายุการใช้งานที่สั้นลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

 

หยุดใช้สกรูไฟฟ้า

สวิทช์สตาร์ทเสียง่าย

เนื่องจากสวิทช์สตาร์ทของสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน (Carbon Brush) เป็นชิ้นส่วนที่เราใช้งานอยู่ตลอดเวลา และข้อจำกัดของสวิทช์สตาร์ท ที่ใช้กับสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน (Carbon Brush) ก็คือการที่ตังมันเป็นสวิทซ์แบบเมคคานิกที่กดแล้วดังแตีกๆ ทำให้เกิดการอาร์คขนาดย่อมๆ จึงส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นและไม่ทนทาน ต่างกับสวิทซ์ที่ใช้กับ สกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบไีร้แปรงถ่าน(Carbon Brushless ) ที่เป็นเซ็นเซอร์ (Sensor) จึงไม่เกิดการอาร์คทำให้อยาการใช้งานนานกว่าหลายเท่าตัว

 

 

หยุดใช้สกรูไฟฟ้า

มลพิษจากแปรงถ่าน

อย่างที่ผมบอกไปแล้วนะครับว่าหลักการหมุนของสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush) นั้นจะใช้การอาร์คระหว่างขั้วของแปรงถ่านทั้ง 2 ด้าน ทำให้หลีกเลี่ยงยากที่จะฝุ่นของแปรงถ่านติดอยู่ภายในตัวของสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush ) หรือบางครั้งก็ออกมาข้างนอกบอดี้ของสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush ) ฝุ่นต่างๆนอกจากจะสร้างมลพิษแล้ว บางครั้งในงานบางประเภทที่ค่อนข้างจะเป็นงานประกอบที่ไม่ต้องการให้มีฝุ่นติดในชิ้นงานที่ประกอบ ส่วนใหญ่งานพวกนี้จะประกอบในห้อง Cleanroom จะทำให้ไม่สามารถใช้สกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush)ได้เลยครับ

 

หยุดใช้สกรูไฟฟ้า

กระแสไม่นิ่ง

เนื่องจากสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush ) นั้นมีการสูญเสียพลังงานไปกับความร้อนที่ใช้ในการสตาร์ทซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าการอาร์คแต่ละครั้งจะใช้กระแสมากน้อยแค่ไหน จึงทำให้ความนิ่งของกระแสค่อนข้างสวิง ส่งผลให้เราอาจต้องเสียค่าไฟในการใช้งานสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush ) โดยไม่จำเป็น กลายเป็นต้นทุนแฝงแบบไม่รู้ตัวเลยครับ

 

ด้วยเหตุผล 5 ประการที่ผมได้บอกเบื้องต้นนะครับว่า เราควรที่จะหยุดใช้สกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบแปรงถ่าน(Carbon Brush ) ได้แล้วหันมาใช้ สกรูไฟฟ้า (Screwdriver) แบบไร้แปรงถ่าน (Carbon Brushless) จะดีกว่าครับ เพราะเราอาจจะรู้สึกว่าที่ใช้เพราะราคาที่ถูก แตจ่ลืมไปว่าต้นทุนแผงอีกมากเลยครับ ครั้งหน้าผมจะมาคุยให้ฟังว่าสกรูไฟฟ้า (Screwdriver) ใรปัจจุบันมีเทคโนโลยี่ก้าวหน้าไปถึงไหนแล้วนะครับ สำหรับวันนี้ของคุณครับ


ติดตามเทคนิคดีๆ ได้ที่

Line

LineID: @SmartCost

Facebook

Fanpage: SmartCost

Youtube

Chanal: SmartCost