เคลือบแก้ว กับ เคลือบเซรามิก

หลายคนคงเคยเห็นป้ายราคา ตามร้านล้างรถที่อยู่ตามท้องถนนต่าง ๆ ว่า

"เคลือบแก้ว เริ่มต้นที่ 19,xxxx บาท"

"เคลือบเซรามิก ราคาเริ่มต้นที่ 25,xxxx บาท"

"เคลือบแก้วความแข็ง 9H" บลาๆๆ เต็มไปหมด !!

เคยสับสนไหมครับว่า เคลือบแก้ว กับ เคลือบเซรามิก ต่างกันอย่างไร ?



วันนี้เรามาดูกันครับว่าแตกต่างกันอย่างไร ?

การทนรอยขีดข่วน

หลายคนต้องคิดเหมือนผมแน่ๆ ครับว่า เคลือบเซรามิก เนี่ยมันต้องทนรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเคลือบแก้วสิ! เพราะมันมาที่หลังการเคลือบแก้ว และมันก็แพงกว่าด้วย! เอาความเป็นจริงแบบง่ายๆ นะครับ

"เซรามิก คือ การนำเอาแก้วมาให้ความร้อน และอัดแรงดันเข้าไป เพื่อให้โครงสร้างเรียงตัวใหม่ เป็นระเบียบมากขึ้น"

"การทนรอยขีดข่วนได้ดีนั้น ขึ้นอยู่กับความแข็ง ไม่ใช่ความคงทน"

ยกตัวอย่าง เช่น เวลาเราใช้มีดในการสับหมู เราจะเห็นว่าเขียงที่ใช้ไม่ว่าจะเป็นไม้ หรือ พลาสติก จะเกิดรอยมีดขึ้น แต่เราไม่เคยเห็นมีดเป็นรอยเนื่องจากเขียงใช่ไหมครับ !! เพราะมีดแข็งกว่า เขียงมันจึงทำให้เขียงเป็นรอย หลังจากที่มีขูดขีดบนเขียง หลักการของ การเคลือบแก้ว หรือ เคลือบเซรามิก บนตัวรถก็ไม่ต่างกันครับ เวลากิ่งไม้ หรือเศษหินที่มาขีดข่วนที่ตัวรถเวลาวิ่งนั้น ถ้าสารที่เคลือบบนตัวรถนั้นมีความแข็งมากๆ รถก็จะไม่เกิดรอยครับ ดังนั้นทนไม่ทน ไม่ได้อยู่ที่ เคลือบเซรามิก หรือ เคลือบแก้ว แต่อยู่ที่ว่าความแข็งของสารที่เคลือบอันไหนแข็งกว่ากันต่างหาก !!

เคลือบแก้ว กับ เคลือบเซรามิก



การทนการกันกร่อนจากขี้นก และ ยางไม้

อย่างที่เราทราบๆ กันว่า ยางไม้ และ ขี้นกนั้น มีฤทธิ์เป็นกรดที่สามารถกัดกิน ชั้นสีของรถได้อย่างง่ายดาย ถ้าเราปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน โดยไม่ล้างออกในทั้นที อย่างที่บอกไปตอนแรกว่า เคลือบเซรามิกนั้นมีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่าเคลือบแก้ว จึงทำให้ การเคลือบเซรามิก สามารถทนทานต่อการกัดกร่อน ของกรดได้ดีกว่าการเคลือบแก้ว เพราะโครงสร้างที่เป็นระเบียบกว่าย่อมมีความแข็งแรงมากกว่า จึงทำให้สามารถทนแรงกัดกร่อนของกรดได้ดีกว่าด้วย !!

เคลือบแก้ว กับ เคลือบเซรามิก



การเกาะติดของน้ำ

ด้วยโครงสร้างของเซรามิก มีความเป็นระเบียบมากกว่าแก้วอย่างที่บอกไปในตอนต้น จึงส่งผลให้ แรงเสียดทานที่ผิวน้อยกว่าแก้ว ทำให้น้ำ ยางมะตอย หรือ ฝุ่นต่างๆไม่สามารถเกาะที่ผิวของรถที่เคลือบเซรามิก ส่งผลให้ การเคลือบเซรามิก ลดการเกาะติดของน้ำมากกว่าการเคลือบแก้ว

เคลือบแก้ว กับ เคลือบเซรามิก



อายุการใช้งาน

เนื่องจากโครงสร้างของ เซรามิกมีความเสถียร และความแข็งแรงสูงกว่าแก้วจึงทำให้อายุการใช้งานของการเคลือบเซรามิกนั้น ยาวนานกว่าการเคลือบแก้วนั้นเอง !! ดังนั้น ถ้าเราจะสรุปว่าข้อแตกต่างระหว่างการเคลือบแก้ว และ เคลือบเซรามิก ว่าอันไหนดีกว่ากันนั้น คงตอบยาก เพราะมันขึ้นอยู่กับงบประมาณ และความพึงพอใจของแต่ละบุคคลนะครับ แต่ผมน่าจะสรุปได้คราวๆ เป็นข้อๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจดังนี้

เคลือบแก้ว กับ เคลือบเซรามิก



ความสามารถในการต่อการขีดข่วน

>>>>> เสมอกัน


ความสามารถในการต่อการกัดกร่อนของขี้นก หรือยางไม้

>>>>> เคลือบเซรามิกดีกว่า


ความสามารถในการลดการเกาะของน้ำบนผิวรถ

>>>>> เคลือบเซรามิกดีกว่า


อายุการใช้งาน

>>>>> เคลือบเซรามิกดีกว่า


ราคา

>>>>> เคลือบแก้วถูกกว่า



ถ้าวันนี้งบประมาณของคุณไม่จำกัด

เราข้อแนะนำให้ท่านเลือกใช้การเคลือบเซรามิก!!!


แต่ถ้าคุณมีงบประมาณที่จำกัด

การเคลือบแก้ว ก็อาจเป็นทางออกที่เหมาะสม!!!


ถึงอย่างไรก็ตาม การเคลือบแก้ว หรือ เคลือบเซรามิก ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการดูแลสีรถของคุณ เพราะถ้าเรารอให้ปัญหามันเกิด ก่อนการป้องกันนั้น สุดท้ายคุณอาจต้องจ่ายมากกว่าเดิม เพื่อฟื้นฟูสภาพสีรถของคุณให้กลับมาเงางามอีกครั้ง



เลือกป้องกันสีรถของคุณก่อนที่จะสายเกินไป !!

ลองเคลือบแก้วด้วยน้ำยา Ceramic Coating รุ่น ICE ที่มีอายุยาวนานถึง 2 ปี

หรือ เกรดพรีเมี่ยม อย่าง QUARTZ ที่มีอายุยาวนานถึง 4 ปี

ได้รับการรองรับ จาก บริษัท Boeing ให้ใช้ในการเคลือบเครื่องบิน และ ยังมีผู้ยอมรับมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก อีกด้วย


เลือก Ceramic coating เลือก ICE หรือ QUARTZ คุณภาพดี ใช้งานง่าย และคงทนอีกด้วยครับ


ติดตามเทคนิคดีๆ ได้ที่

Youtube

Chanal: SmartCost