เปรียบเทียบ บาลานเซอร์ ไร้แรงโน้มถ่วง Vs. บาลานเซอร์

บาลานเซอร์ หรือ สปริงบาลานเซอร์ ที่หลายท่านรู้จักนั้น เรียกได้ว่าเป็น อุปกรณ์ช่วยยก ที่ใช้ช่วยถือหรือยก Tool ที่มีน้ำหนัก เนื่องจากการที่จะยกหรือถือ Tool เป็นเวลานาน ๆ ก็อาจส่งผลให้เกิดความเมื่อยล้ากับผู้ใช้งานได้ ดังนั้น จึงใช้ บาลานเซอร์ หรือ สปริงบาลานเซอร์ มาเป็นอุปกรณ์ช่วยยก ที่จะมาช่วยผ่อนน้ำหนักให้เป็นน้ำหนักเบาได้ บาลานเซอร์ จึงมีใช้กันตามโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตและการประกอบ ไม่ว่าจะเป็นงานประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ งานประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้า งานประกอบเฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงในปัจจุบันได้นำไปใช้ใน อุตสาหกรรมอาหาร โลจิสติกส์ ฟิสเนส ทางการแพทย์ ทำหลังคาป้องกันแสงแดด และอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่ง บาลานเซอร์ ตามท้องตลาดนั้นมีทั้ง บาลานเซอร์ ที่เป็น zero gravity balancer และ balancer ที่ไม่ใช่ zero วันนี้ผมจะพาท่านไปทำความรู้จัก เพื่อที่ท่านจะได้เลือกใช้งานให้ตรงหรือเหมาะกับงานของท่านครับ

Zero Gravity Balancer คืออะไร ?

Zero Gravity Balancer ต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง โดยใช้เครื่อง CNC 5 แกนในการผลิต รวมทั้งการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อคำนวนแรง เพื่อให้เวลาใช้งานผู้ใช้งานจะรู้สึกเสมือนไร้น้ำหนัก เวลาใช้งานเมื่อทำการดึงแล้วจะค้างอยู่ที่ตำแหน่งเดิม เสมือนไม่มีน้ำหนัก เพื่อให้เราไม่ต้องออกแรงดึง นั่นคือ Zero gravity Balancer (ซีโร่กราวิตี้บาลานเซอร์) หรือเรียกว่า บาลานเซอร์ไร้แรงโน้มถ่วง หรือจะเรียกว่า บาลานเซอร์ไร้น้ำหนัก

แตกต่างจาก Balancer ปกติ ที่ขาดความเสถียรในการรักษาน้ำหนักให้คงที่ตลอดเวลา

แล้ว Balancer ปกติ คืออะไร ?

Balancer ปกติ หรือ บาลานเซอร์ ที่ไม่ใช่ zero gravity นั้น จะมีลักษณะการใช้งานที่ดีดกลับเวลาใช้งาน ซึ่งความจริงแล้วจะถูกเรียกว่า "Retractor" (รีแทรคเตอร์) แต่ในที่นี้ เพื่อไม่ให้ท่านผู้อ่านสับสน ผมขอเรียกตัว รีแทรคเตอร์ ว่า บาลานเซอร์ แล้วกันครับ ซึ่ง บาลานเซอร์ จะมีการออกแบบง่ายกว่า "ซีโร่กราวิตี้บาลานเซอร์" ครับ เลยทำให้มีราคาถูกต่ำกว่า แต่เมื่อใช้งานจะต้องออกแรงดึง เพราะไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เป็น Zero Gravity Balancer นั่นเองครับ

และนี่ก็คือความแตกต่างของ Zero Gravity Balancer Vs. Balancer ทีนี้ผมจะพาท่านไปรู้จักกับ Zero Gravity Balancer และ Balancer ของยี่ห้อ Carl Stahl Kromer จากประเทศเยอรมนี จะมีความพิเศษยังไง?

Zero Gravity Balancer มีลักษณะเป็นรูปทรงกรวย ที่ภายในมีเคเบิลดรัม ซึ่งมีการรับประกันแรงดีดกลับที่เกือบจะคงที่ โดยไม่ขึ้นกับส่วนขยายของสายเคเบิลที่รับน้ำหนัก ดังนั้น จึงส่งผลให้ working load ยังคงค้างอยู่ในตำแหน่งเดิมหลังการใช้งาน นอกจากนี้ ยังไม่มีแรงดีดกลับเพิ่มขึ้นที่กระทำต่อมือของผู้ใช้งาน ซึ่งจุดนี้สำคัญมากครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำไปใช้กับงานที่ละเอียดอ่อนและมีความแม่นยำสูง ดังนั้นการใช้ซีโร่กราวิตี้บาลานเซอร์จึงช่วยลดความเมื่อยล้าและอำนวยความสะดวกในการทำงานของคุณเป็นเวลานานได้เป็นอย่างดีครับ ด้วยการออกแบบและการผลิตสินค้าคุณภาพสูง ให้เหมาะกับสถานที่ทำงาน ลดความเมื่อยล้า เพิ่มความปลอดภัย และถูกหลักสรีรศาสตร์ของผู้ใช้งาน ด้วยช่วงการรับน้ำหนักระหว่าง 0-300 กก. เพื่อให้ผู้ใช้เลือกช่วงน้ำหนักให้เหมาะกับ Tool หรืออุปกรณ์ที่ท่านใช้งานนั่นเองครับ

Balancer หรือ Spring Balancer (สปริงบาลานเซอร์) ของ Carl Stahl Kromer เรียกว่า Retractor (รีแทรคเตอร์) ได้รับการออกแบบในลักษณะที่แรงในการดีดกลับเพิ่มขึ้นตามความยาวสายเคเบิลที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น working load (Tool หรือเครื่องมือ) จะถูกดีดกลับโดยอัตโนมัติไปยังตำแหน่งเริ่มต้นหลังการใช้งาน ข้อดี ของบาลานเซอร์คือ สถานที่ทำงานของคุณจะเป็นระเบียบตามหลัก 5ส Tool หรืออุปกรณ์จะเป็นระเบียบ และยังเพิ่มความปลอดภัยในที่ทำงานของท่านอีกด้วย ในช่วงน้ำหนักที่ท่านเลือกได้ตั้งแต่ 0.5-14 กก. นั้นเองครับ

นอกจาก Zero Gravity Balancer และ Balancer แล้ว Carl Stahl Kromer ยังมีอุปกรณ์ที่ช่วยถือหรือยกอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Air hose retractor (บาลานเซอร์แบบมีสายลมในตัว), Rust-free balancer (บาลานเซอร์สแตนเลส) และ Positioner (ที่เป็นตัวกำหนดตำแหน่ง) ท่านสามารถคลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยครับ

หวังว่าบนความนี้ จะช่วยให้ท่านผู้อ่านเข้าใจและเห็นความแตกต่างของ Zero Gravity Balancer vs. Balancer มาขึ้นนะครับ ก่อนที่ท่านจะเลือกใช้งานอย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่า Tool ของท่านมีน้ำหนักกี่กก. และอยู่ในช่วงน้ำหนักของ Zero Gravity Balancer หรือ Balancer ที่ท่านเลือกหรือไม่ !! พบกันใหม่ในบทความหน้า ขอบคุณครับ