คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับน้ำยาเคลือบแก้ว



น้ำยาเคลือบแก้วแบรนด์ Puris



1. ทำไมต้องใช้น้ำยาเคลือบเซรามิก ของ Puris ?

น้ำยาเคลือบเซรามิก ของ Puris ถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติ hydrophobic เพื่อปกป้องสีผิวรถยนต์จากสิ่งสกปรก ลดการเกาะตัวของฝุ่นละออง ขี้นก ยางไม้ และยังลดการเกาะตัวของหยดน้ำ และมีคุณสมบัติเป็นเหมือนโล่แข็งแรง ทนทาน ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนเล็กๆน้อยๆ และรอยขนแมวได้อย่างดี


2. น้ำยาเคลือบเซรามิก (Jade Ceramic Coatings) คืออะไร ?

น้ำยาเคลือบเซรามิก (Jade Ceramic Coatings) คือการจัดเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบของอะตอม ซิลิกอน (Si) และ ออกซิเจน (O) ในโครงสร้าง 3 มิติ ด้วยคุณสมบัตินาโนที่ให้ความทนทานสูง มีคุณสมบัติคล้ายแก้ว ให้ความทนทานเพิ่มมากขึ้น ทนต่อสารเคมี แสง UV และให้คุณสมบัติ hydrophobic การ เคลือบเซรามิก จะช่วยให้การบำรุงรักษารถยนต์เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และยังเป็นมิตรกับผู้ใช้งานอีกด้วย


3. ความแตกต่างของ น้ำยาเคลือบเซรามิก Jade Ice, Jade Quartz, Jade Edge คืออะไร ?

ทั้ง 3 สูตรมีเทคโนโลยีของส่วนประกอบหลักที่เหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันในสูตรที่ผสมผสานเพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน

  • Jade Quartz (9H) เป็นสูตรที่มีส่วนผสมเข้มข้นสูงสุด เพื่อให้ประสิทธิภาพในการเคลือบมากที่สุด เป็น เซรามิก เกรดพรีเมี่ยม เหมาะสำหรับผิวสีรถยนต์ และให้การปกป้องยาวนานถึง 4 ปี
  • Jade Ice (7H) ส่วนผสมคล้ายกับ Jade Quartz เหมาะสำหรับผิวสีรถยนต์ มีความยืดหยุ่นที่จำกัด ใช้งานง่าย และให้การปกป้องยาวนานถึง 2 ปี
  • Jade Edge (4H) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า 2 รุ่นข้างต้น ออกแบบมาเพื่อปกป้องชิ้นส่วนผิวภายนอก ไวนิล และพลาสติก นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นมากที่สุด

4. สามารถเคลือบ Jade Ceramic ส่วนไหนบ้าง ?

ทั้ง 3 สูตร สามารถเคลือบพื้นผิวต่าง ๆ เช่น พื้นผิวสี ล้อ พลาสติก ยาง และกระจก


5. Jade Ceramic ให้การปกป้องยาวนานเท่าไร?

การปกป้องขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศ วัสดุที่ทำให้เกิดรอย และการบำรุงรักษา ซึ่งชั้น เคลือบเซรามิกสามารถลดลงได้ตามการใช้งานและสภาพแวดล้อมจริง




น้ำยาเคลือบแก้ว Puris ต่างจากแบรนด์อื่นยังไง



1. เทคโนโลยีนาโน ในการ เคลือบเซรามิก คืออะไร ?

เทคโนโลยีนาโน ในการ เคลือบเซรามิก คือสารเคมีที่เกิดขึ้นในระดับอะตอม การจัดเรียงโมเลกุลที่ให้พลังงานต่ำมากและมีความเสถียรสูง


2. การวัดความแข็งของ Jade ceramic coating ?

วัดความแข็งตามมาตรฐาน ASTM D3363 Film Hardness by Pencil


3. เคลือบเซรามิก กับ เคลือบแก้ว แตกต่างกันอย่างไร ?

  • เคลือบแก้ว เป็นของแข็งที่ไม่มีรูปร่าง และไม่มีการจัดเรียงตัวของโมเลกุลในระยะยาว
  • เคลือบเซรามิก มีการจัดเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ โครงสร้างผลึกที่มีพลังงานต่ำ ซึ่งทำให้ทนทานมาก และมีความเสถียรสูง ทำให้ทนต่อปฏิกิริยาเคมี

4. ความร้อน หรือความเย็นจัด เป็นอันตรายต่อผิวที่เคลือบ Jade ceramic coating หรือไม่ ?

ไม่ การเคลือบผิวมีความเสถียรและทนทานสูงต่อการเปลี่ยนแปลงอุณภูมิ จึงไม่ทำให้ผิว เคลือบเซรามิก แตก ลอก หรือแยกออกเป็นชั้น


5. Jade Ceramic ได้รับการรับรองจาก ?

ได้รับการรับรองจาก Boeing Aerospace ด้วยการทดสอบมาตรฐานอย่างเข้มงวดและได้รับการรับรองมาตรฐาน D-6 17487T




การเตรียมรถยนต์ ก่อนใช้น้ำยาเคลือบแก้ว Puris



1. ก่อนใช้น้ำยาเคลือบแก้ว Puris ต้องเตรียมสีผิวรถหรือไม่ ?

ใช่ เพราะหากไม่เตรียมผิวก่อน คราบสกปรก รอยขนแมว หรือรอยขีดข่วนต่างๆ ที่อยู่บนผิวสี เมื่อเคลือบเซรามิกทับไปแล้ว รอยต่างๆ จะถูกล็อคไว้และยังมองเห็นรอยได้อย่างชัดเจน

คำแนะนำ ทำความสะอาดคราบสกปรก และขัดลบรอยขนแมวต่างๆที่อยู่บนผิวรถออกให้หมด ด้วยการขัด 3 ขั้นตอน ขัดหยาบ ขัดละเอียด และขัดเงา ก่อนเคลือบควรใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบแว็กซ์ คราบน้ำมันตกค้าง หรือแอลกอฮอล์ 15% เช็ดทำความสะอาด ที่สำคัญผิวที่เคลือบต้องไม่มีฝุ่น หลังจากนั้น สามารถใช้น้ำยา Jade ceramic เคลือบผิวได้


2. ต้องเตรียมผิวชิ้นส่วน พลาสติก ไวนิล ยาง หรืออุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ หรือไม่ ?

เพียงทำความสะอาด และ เช็ดให้แห้ง ตามปกติ




การใช้งาน้ำยาเคลือบแก้ว Puris



1. ขั้นตอนการลงน้ำยา Jade ceramic coating ทำอย่างไร ?

  • แบ่งพื้นที่ในการเคลือบประมาณ 3x3 ฟุต (90x90 ซม.) หรือน้อยกว่า
  • ทิ้งไว้สักครู่ (ประมาณ 1-2 นาที ขึ้นอยู่กับอุณภูมิ) โดยสังเกตว่า น้ำยาขึ้นเป็น “รุ้ง” ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดคราบน้ำยาส่วนเกินออกเบาๆ ไปในทิศทางเดียวกัน และเช็ดซ้ำอีกครั้งให้เงาวาว
  • ทำซ้ำตามข้อ 1- 2 บนผิวรถยนต์ชิ้นส่วนอื่นจนครบ เป็นอันเสร็จสมบูรณ์

2. รถที่ผ่านการเคลือบสามารถโดนน้ำได้เมื่อไหร่ ?

  • หลังการเคลือบน้ำยา ceramic coating ควรทิ้งไว้ 12-24 ชั่วโมงก่อนนำรถไปใช้งานตามปกติ ไม่ควรโดนน้ำ เพื่อให้น้ำยาเซ็ตตัวกับผิวรถอย่างสมบูรณ์
  • หากภายใน 24 ชั่วโมงแรก ผิวที่เคลือบโดนน้ำ ให้รีบเช็ดออกเบาๆด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ทันที

3. ทำไมไม่ควรใช้น้ำยา Jade ceramic coating กลางแดด ?

ส่วนผสมในน้ำยา ceramic coating มีคุณสมบัติในการระเหย ถ้าพื้นผิวที่เคลือบร้อนมากเกินไปจะเกิดการระเหยอย่างรวดเร็ว และจะมีผลอันตรายกับผิวที่เคลือบ


4. สามารถใช้น้ำยาเคลือบเซรามิก ของ Puris เคลือบซ้ำมากกว่า 2 รอบ ได้ หรือ ไม่ ?

  • ได้ เพราะน้ำยา Jade ceramic coating ออกแบบมาให้มีตัวเลือกสำหรับการซ้อนทับกันได้ จะช่วยเพิ่มความทนทานได้มากยิ่งขึ้น
  • หลังจากเคลือบชั้นแรกเสร็จทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถเคลือบทับชั้นแรกตามขั้นตอนเดิมได้
 



การบำรุงรักษา หลังเคลือบเซรามิกแล้ว



1. คุณสมบัติ hydrophobic จะหายไปเมื่อไหร่ ?

ส่วนผสมในน้ำยา ceramic coating มีคุณสมบัติในการระเหย ถ้าพื้นผิวที่เคลือบร้อนมากเกินไปจะเกิดการระเหยอย่างรวดเร็ว และจะมีผลอันตรายกับผิวที่เคลือบ


2. หลังเคลือบน้ำยา Jade ceramic coating สามารถลูปดินน้ำมันได้หรือไม่ ?

แนะนำ ไม่ควรลูบดินน้ำมันบนผิวสีที่ผ่านการเคลือบน้ำยา ceramic coating เพราะจะมีผลต่อความทนทานของน้ำยาได้


3. สามารถใช้ wax หรือ sealant ได้หรือไม่ ?

  • ได้ แต่ wax หรือ sealant ไม่ควรมีส่วนผสมของผงขัด
  • ไม่ควรใช้น้ำยา Jade ceramic coating เคลือบลงบนผิวที่มีการเคลือบ wax หรือ sealant

4. สามารถใช้น้ำยา Jade ceramic เคลือบบนชิ้นส่วนที่ทำสีมาใหม่ได้ทันทีหรือไม่ ?

ไม่ได้ หลังการทำสีใหม่ควรทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน


5. หากต้องการกำจัดน้ำยา Jade ceramic coating บนผิวรถจะทำอย่างไร ?

สามารถขัดออกโดยใช้น้ำยาขัดหยาบ Puris A1 หรือ A14


6. ผิวที่เคลือบ Jade ceramic จะแยกเป็นชั้นๆ แตก ลอก หรือเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองหรือไม่ ?

ผิวที่เคลือบจะไม่แยกเป็นชั้น แตก ลอก หรือเปลี่ยนสี ตลอดอายุการใช้งานของน้ำยาเคลือบ


7. การเก็บรักษาน้ำยาและเมื่อเปิดขวดแล้วจะทำอย่างไร ?

  • ควรเก็บให้พ้นแสงแดด
  • อายุการเก็บรักษาน้ำยานาน 2 ปี หากเปิดขวดแล้ว น้ำยาสามารถเก็บได้นาน 3 เดือน เพราะน้ำยา ceramic coating เมื่อสัมผัสกับอากาศจะทำปฏิกิริยากับความชื้น และน้ำยาจะหนืดขึ้น


ติดตามเทคนิคดีๆ ได้ที่

Youtube

Chanal: SmartCost